ภาษีมูลค่าเพิ่มในไทย: สิ่งที่เจ้าของธุรกิจควรรู้

ภาษีมูลค่าเพิ่มในไทย:-สิ่งที่เจ้าของธุรกิจควรรู้

ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) เป็นหนึ่งในภาษีที่สำคัญในระบบเศรษฐกิจของไทย ซึ่งมีผลต่อการดำเนินธุรกิจของทั้งผู้ประกอบการและผู้บริโภค การเข้าใจหลักการและข้อกำหนดเกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่มจะช่วยให้ธุรกิจสามารถปฏิบัติตามกฎหมายได้อย่างถูกต้อง และลดความเสี่ยงจากการเสียค่าปรับที่ไม่จำเป็น

ภาษีมูลค่าเพิ่มในไทย: สิ่งที่เจ้าของธุรกิจควรรู้ มาดูกันครับ

Table of Content : สารบัญ

ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) คืออะไร?

ภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นภาษีที่เรียกเก็บจากการบริโภคสินค้าและบริการในทุกขั้นตอนการผลิตและการจำหน่าย โดยผู้บริโภคปลายทางจะเป็นผู้รับภาระภาษีในที่สุด แต่ผู้ประกอบการมีหน้าที่เรียกเก็บและส่งมอบภาษีดังกล่าวให้กับกรมสรรพากร

อ่านเพิ่มเติม: บุคคลธรรมดา-สรุปประเด็นบัญชีและภาษีสำหรับนักขายออนไลน์ E-Commerce

ใครที่ต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม?

1. ผู้ประกอบการที่มีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี
ผู้ประกอบการที่มีรายได้จากการขายสินค้าหรือให้บริการเกิน 1.8 ล้านบาท ในปีภาษีที่ผ่านมา (หรือประมาณ 150,000 บาทต่อเดือน) ต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยต้องยื่นคำขอจดทะเบียนภายใน 30 วันนับแต่วันที่มีรายรับเกิน

2. ผู้ประกอบการที่ทำการขายสินค้าและบริการที่ต้องเสียภาษี
ผู้ที่ค้าขายสินค้า หรือให้บริการที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ได้แก่:

  • การค้าสินค้าทั่วไป (เช่น ร้านค้าปลีก, ร้านค้าออนไลน์)
  • การให้บริการที่ต้องเสียภาษี เช่น บริการทางการเงิน, บริการด้านสุขภาพ, บริการด้านการศึกษา, บริการด้านการท่องเที่ยว
  • การขายอสังหาริมทรัพย์ เช่น บ้าน, คอนโดมิเนียม, ที่ดิน
  • การนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ

3. ผู้ประกอบการที่เลือกจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม
แม้ว่าผู้ประกอบการจะมีรายได้ต่ำกว่า 1.8 ล้านบาท แต่สามารถเลือกจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มได้เพื่อสิทธิประโยชน์ในการขอคืนภาษีจากการซื้อสินค้าหรือบริการ

4. ผู้ประกอบการที่ทำการส่งออกสินค้า
หากผู้ประกอบการทำการส่งออกสินค้าไปต่างประเทศและไม่ต้องการเก็บภาษีจากลูกค้าภายในประเทศ จะต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มเพื่อขอคืนภาษีจากการนำเข้าสินค้าหรือวัตถุดิบ

5. ผู้ประกอบกิจการขายสินค้าหรือให้บริการ ซึ่งมีแผนงานที่สามารถพิสูจน์ได้ว่า ได้มีการดำเนินการ และเตรียมการประกอบกิจการอันเป็นเหตุให้ต้องมีการซื้อสินค้า หรือรับบริการที่อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม เช่น การก่อสร้างโรงงาน ก่อสร้างอาคารสำนักงาน หรือการติดตั้งเครื่องจักร

6. ผู้ประกอบการอยู่นอกราชอาณาจักร และได้ขายสินค้าหรือให้บริการในราชอาณาจักรเป็นปกติธุระ โดยมีตัวแทนอยู่ในราชอาณาจักร ให้ตัวแทนเป็นผู้มีหน้าที่รับผิดชอบการจดทะเบียน ภายในกำหนด 6 เดือนก่อนวันเริ่มประกอบกิจการ เว้นแต่มีสัญญาหรือหลักฐานจะดำเนินการก่อสร้าง ภายในเวลาที่เหมาะสม

กิจการที่ไม่ต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม: หากผู้ประกอบการขายสินค้าหรือบริการที่ได้รับการยกเว้นภาษี เช่น สินค้าหรือบริการที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ การขายอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัย หรือกิจการที่มีรายได้ต่ำกว่า 1.8 ล้านบาทต่อปีที่เลือกไม่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม

ผู้ประกอบกิจการที่ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มตามกฎหมาย แต่มีสิทธิแจ้งขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม

ผู้ประกอบกิจการที่ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มตามกฎหมาย แต่มีสิทธิแจ้งขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ได้แก่

  1. ผู้ประกอบกิจการขายสินค้าพืชผลทางการเกษตร สัตว์ไม่ว่ามีชีวิตหรือไม่มีชีวิต ปุ๋ย ปลาป่นอาหารสัตว์ ยาหรือเคมีภัณฑ์ที่ใช้สำหรับพืชหรือสัตว์ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร หรือตำราเรียน
  2. ผู้ประกอบกิจการขายสินค้าหรือให้บริการ ซึ่งไม่ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มตามกฎหมายและมีรายรับไม่เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี
  3. การให้บริการขนส่งในราชอาณาจักรโดยท่าอากาศยาน
  4. การส่งออกของผู้ประกอบการในเขตอุตสาหกรรมส่งออกตามกฎหมายว่าด้วยการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
  5. การให้บริการขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิงทางท่อในราชอาณาจักร

ใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม

เมื่อเจ้าพนักงานได้รับคำขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามแบบ ภ.พ.01 พร้อมเอกสาร ที่เกี่ยวข้องครบถ้วนแล้ว จะมีการออกใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (แบบ ภ.พ.20) ให้ ซึ่งจะมีผลให้ผู้ประกอบการเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนตามกฎหมาย ตั้งแต่วันที่ระบุไว้ในใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นต้นไป

กรณีที่ผู้ประกอบการมีสถานประกอบการหลายแห่ง ให้ยื่นคำขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ท้องที่ที่สถานประกอบการที่เป็นสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่เพียงแห่งเดียว แต่กรมสรรพากรจะออกใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ.พ. 20) ให้แก่สถานประกอบการทุกแห่ง โดยผู้ประกอบการจดทะเบียนจะต้องนำใบทะเบียนดังกล่าวไปแสดงไว้ในที่ที่เปิดเผยและเห็นได้ง่าย ณ สถานประกอบการแห่งนั้น ๆ

กรณีที่ใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มสูญหาย ถูกทำลายหรือชำรุดในสาระสำคัญ ผู้ประกอบการจดทะเบียนจะต้องยื่นคำขอรับใบแทนใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ สถานที่ที่ได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มไว้ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ทราบถึงการสูญหาย ถูกทำลายหรือชำรุด ซึ่งใบแทนดังกล่าวถือเป็นใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม

การแจ้งเปลี่ยนแปลงการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม

การแจ้งเปลี่ยนแปลงการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ผู้ประกอบการที่ได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว ต่อมาภายหลังมีการเปลี่ยนแปลงกรณีต่าง ๆเกิดขึ้น จะต้องยื่นคำขอเพื่อแจ้งแก้ไขเปลี่ยนแปลงทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม

อัตราภาษีมูลค่าเพิ่มในไทย

ปัจจุบันอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ในประเทศไทยอยู่ที่ 7% ซึ่งเป็นอัตราที่ลดลงจากอัตราปกติ 10% ตามพระราชกฤษฎีกาที่ออกมาเพื่อลดภาระภาษีให้กับประชาชนและกระตุ้นเศรษฐกิจ

อัตรา 7% นี้รวมถึง

  • ภาษีมูลค่าเพิ่ม 6.3%
  • ภาษีท้องถิ่น 0.7%

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลอาจมีการเปลี่ยนแปลงอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มในอนาคต ขึ้นอยู่กับนโยบายทางเศรษฐกิจและการคลังของประเทศ

การคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม

1. ภาษีขาย (Output VAT):
– ภาษีที่ผู้ประกอบการเรียกเก็บจากลูกค้าเมื่อขายสินค้า/บริการ
2. ภาษีซื้อ (Input VAT):
– ภาษีที่ผู้ประกอบการจ่ายเมื่อซื้อสินค้า/บริการจากผู้ประกอบการรายอื่น
3. ภาษีที่ต้องชำระ:
– ภาษีที่ต้องส่งให้กรมสรรพากร = ภาษีขาย – ภาษีซื้อ

ตัวอย่าง:
– ยอดขายสินค้า = 100,000 บาท (ยังไม่รวม VAT)
– VAT 7% = 7,000 บาท
– ยอดรวม = 107,000 บาท

หากภาษีซื้อในเดือนเดียวกันเท่ากับ 3,000 บาท
– ภาษีที่ต้องชำระ = 7,000 – 3,000 = 4,000 บาท

อ่านเพิ่มเติม: นิติบุคคล-สรุปประเด็นบัญชีและภาษีสำหรับนักขายออนไลน์ E-Commerce

วิธีการยื่นแบบภาษีมูลค่าเพิ่ม

1. การยื่นแบบภาษี (ภ.พ.30):
– ผู้ประกอบการต้องยื่นแบบภาษีมูลค่าเพิ่มทุกเดือน ไม่ว่าจะมีรายรับหรือไม่
2. กำหนดเวลายื่น:
– ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป หากยื่นล่าช้าอาจมีค่าปรับและดอกเบี้ย

ข้อควรระวังในการบริหาร VAT

1. บันทึกเอกสารให้ครบถ้วน:
– เช่น ใบกำกับภาษี ใบเสร็จรับเงิน และเอกสารทางการเงินอื่นๆ
2. ตรวจสอบความถูกต้อง:
– การกรอกข้อมูลในแบบ ภ.พ.30 ต้องตรวจสอบให้ถูกต้องก่อนส่ง
3. การปฏิบัติตามข้อกำหนด:
– อัปเดตข้อมูลและข่าวสารเกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่มอย่างสม่ำเสมอ

ประโยชน์ของการบริหารภาษีมูลค่าเพิ่มที่ถูกต้อง

1. ลดความเสี่ยงจากการถูกตรวจสอบหรือค่าปรับจากกรมสรรพากร
2. สร้างความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจ
3. ช่วยให้ธุรกิจดำเนินงานอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ

อ่านเพิ่มเติม: ภาษีหัก ณ ที่จ่ายในไทย-สิ่งที่เจ้าของธุรกิจควรรู้

สรุป

ภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นองค์ประกอบสำคัญในระบบเศรษฐกิจไทยที่ทุกธุรกิจควรให้ความสำคัญ การเข้าใจและปฏิบัติตามข้อกำหนดเกี่ยวกับ VAT ไม่เพียงช่วยให้ธุรกิจปฏิบัติตามกฎหมาย แต่ยังช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและลดความยุ่งยากในระยะยาว

หากคุณไม่มั่นใจในการคำนวณภาษีหรือจัดการบัญชีอย่างถูกต้อง

สำนักงานบัญชีกรุงเทพ (2009) ยินดีที่จะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกหนึ่ง ให้คุณได้ผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้คำปรึกษาและดูแลบัญชี-ภาษีของคุณ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการทำผิดกฎหมาย และช่วยให้คุณวางแผนการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากสนใจ ติดต่อเราได้ครับ