บัญชีภาษีสำหรับธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ที่ผู้ประกอบการต้องรู้!

บัญชีภาษีสำหรับธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง- ที่ผู้ประกอบการต้องรู้!

ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างมีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างจากธุรกิจประเภทอื่นๆ โดยเฉพาะด้านบัญชีและภาษี

การจัดการบัญชีภาษีอย่างถูกต้องจะช่วยลดความเสี่ยงในการถูกตรวจสอบ และเพิ่มโอกาสในการบริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ บทความนี้จะช่วยให้ผู้ประกอบการเข้าใจภาษีที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจรับเหมาก่อสร้างได้ดียิ่งขึ้น

บัญชีภาษีสำหรับธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ที่ผู้ประกอบการต้องรู้!

ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างนับเป็นหนึ่งในธุรกิจที่มีโครงสร้างรายได้-รายจ่ายซับซ้อนที่สุดประเภทหนึ่งในระบบเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในส่วนของ “บัญชี” และ “ภาษี” ที่ผู้ประกอบการจำนวนมากอาจละเลย หรือเข้าใจคลาดเคลื่อนไป ส่งผลให้เกิดปัญหาเรื้อรัง เช่น เสียภาษีย้อนหลัง ถูกปรับจากสรรพากร หรือแม้แต่ขาดทุนโดยไม่รู้ตัว

บทความนี้จึงรวบรวมสาระสำคัญเกี่ยวกับการจัดการบัญชีและภาษีในธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง โดยเน้นภาษาง่ายๆ เข้าใจได้ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของรายเล็กหรือเจ้าของบริษัทขนาดกลาง-ใหญ่ พร้อมแนวทางวางแผนภาษีให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน

Table of Content : สารบัญ

1. ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างคืออะไร? ทำไมต้องมีระบบบัญชีและภาษีที่ดี?

2. เริ่มต้นจากการจดทะเบียนให้ถูกต้อง

3. บัญชีธุรกิจรับเหมา “ต้องละเอียด” กว่าที่คิด

4. ภาษีที่ผู้รับเหมาควรรู้จัก

5. การวางแผนภาษีเพื่อลดต้นทุน

6. การยื่นภาษีให้ถูกต้องและตรงเวลา

7. การตรวจสอบและปรับปรุงการบริหารบัญชีภาษี

8. สรุป

1. ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างคืออะไร? ทำไมต้องมีระบบบัญชีและภาษีที่ดี?

ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง คือธุรกิจที่ให้บริการก่อสร้างอาคาร บ้าน ถนน สะพาน โรงงาน หรือโครงการต่าง ๆ โดยทำงานตามสัญญาที่ตกลงกับผู้ว่าจ้าง ซึ่งอาจเป็นเจ้าของบ้าน หน่วยงานรัฐ หรือบริษัทเอกชน

จุดเด่นของธุรกิจนี้คือ:

  • รายได้ไม่สม่ำเสมอ รับรู้ตามความคืบหน้าโครงการ
  • รายจ่ายมีทั้งต้นทุนโดยตรงและค่าใช้จ่ายแฝง
  • มีการจ้างผู้รับเหมาช่วง และค่าแรงงานหลากหลาย
  • สัญญาก่อสร้างมีเงื่อนไขซับซ้อน และต้องระบุภาษีชัดเจน

หากไม่มีระบบบัญชีที่ดี จะทำให้:

  • ควบคุมต้นทุนไม่ได้
  • เกิดความเสียหายจากการบันทึกผิด
  • เสียภาษีเกินความจำเป็น
  • ไม่สามารถเข้าร่วมประมูลงานหรือยื่นกู้ได้

2. เริ่มต้นจากการจดทะเบียนให้ถูกต้อง

ผู้ประกอบการควรจดทะเบียนอย่างเป็นทางการ ไม่ว่าจะในรูปแบบ:

  • บุคคลธรรมดาเจ้าของธุรกิจ (เหมาะกับรายเล็ก เริ่มต้นง่าย แต่เสียภาษีตามขั้นบันได)
  • นิติบุคคล (บริษัทจำกัด หรือ ห้างหุ้นส่วนจำกัด) (เหมาะกับงานโครงการขนาดใหญ่ หรือเข้าร่วมประมูลงานราชการ)

หากรายได้เกิน 1.8 ล้านบาท/ปี ต้อง จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)

3. บัญชีธุรกิจรับเหมา “ต้องละเอียด” กว่าที่คิด

🧾 รายรับ

  • มาจาก ค่าจ้างตามสัญญา แบ่งรับรู้รายได้เป็นงวด (ตาม % ความคืบหน้า)
  • บางกรณีอาจมี เงินมัดจำ หรือเงินล่วงหน้า (Advance Payment)

💸 รายจ่าย

  • ค่าวัสดุก่อสร้าง (เหล็ก ปูน สี อิฐ ฯลฯ)
  • ค่าแรงงาน (ช่าง, ผู้รับเหมาช่วง)
  • ค่าเช่าเครื่องจักร
  • ค่าขนส่ง
  • ค่าบริหาร เช่น ค่าน้ำมัน, ค่าโทรศัพท์, ค่าเดินทางหน้างาน
  • ค่าซ่อมบำรุงอุปกรณ์

ทุกบาทต้องมีเอกสารยืนยัน เพื่อใช้ประกอบในการหักภาษีและยื่นงบการเงิน

4. ภาษีที่ผู้รับเหมาควรรู้จัก

ผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้างต้องรับผิดชอบภาษีหลายประเภท ได้แก่:

  • ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) – หากมีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี ต้องจดทะเบียน VAT และคิดภาษี 7% กับลูกค้า และนำส่งภาษีให้กับกรมสรรพากร
  • ภาษีหัก ณ ที่จ่าย – กรณีมีการจ้างผู้รับเหมาช่วง (Subcontractor) ต้องหักภาษี ณ ที่จ่ายก่อนจ่ายเงินให้ผู้รับเหมาช่วง โดยอัตราภาษีขึ้นอยู่กับประเภทของงาน
  • ภาษีเงินได้นิติบุคคล – สำหรับบริษัทรับเหมาก่อสร้าง คิดจากกำไรสุทธิหลังหักค่าใช้จ่าย
  • ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา – สำหรับผู้รับเหมารายย่อยที่ไม่ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล
  • ภาษีโรงเรือนและที่ดิน – หากมีสำนักงานหรือโกดังเก็บวัสดุอุปกรณ์ อาจต้องเสียภาษีโรงเรือน

อ่านเพิ่มเติม: ภาษีมูลค่าเพิ่มในไทย: สิ่งที่เจ้าของธุรกิจควรรู้

5. การวางแผนภาษีเพื่อลดต้นทุน

การวางแผนภาษีที่ดีช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถลดภาระภาษีได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย เช่น:

  • ใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษี เช่น ค่าใช้จ่ายด้านอุปกรณ์ เครื่องมือก่อสร้าง ค่าจ้างแรงงาน
  • หักค่าเสื่อมราคาของสินทรัพย์ เช่น เครื่องจักร รถขนส่งวัสดุ
  • วางแผนการรับรู้รายได้แบบผ่อนชำระ เพื่อลดภาระภาษีในแต่ละปี

อ่านเพิ่มเติม: บุคคลธรรมดา-สรุปประเด็นบัญชีและภาษีสำหรับนักขายออนไลน์ E-Commerce

6. การยื่นภาษีให้ถูกต้องและตรงเวลา

  • ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ต้องยื่นแบบ ภ.พ.30 ทุกเดือน
  • ภาษีหัก ณ ที่จ่าย ต้องยื่นแบบ ภ.ง.ด.3 หรือ ภ.ง.ด.53 ทุกเดือน
  • ภาษีเงินได้นิติบุคคล ต้องยื่นแบบ ภ.ง.ด.50 ทุกปี และยื่น ภ.ง.ด.51 สำหรับครึ่งปี

และอย่าลืมตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารก่อนยื่นภาษีเพื่อลดความเสี่ยงจากค่าปรับและดอกเบี้ย

7. การตรวจสอบและปรับปรุงการบริหารบัญชีภาษี

  • ทำบัญชีต้นทุนของแต่ละโครงการอย่างเป็นระบบ
  • ตรวจสอบงบการเงินเป็นระยะเพื่อวางแผนภาษีให้เหมาะสม
  • ปรับปรุงระบบบัญชีและติดตามกฎหมายภาษีที่อัปเดตอย่างสม่ำเสมอ

อ่านเพิ่มเติม: ภาษีหัก ณ ที่จ่ายในไทย-สิ่งที่เจ้าของธุรกิจควรรู้

8. สรุป

การบริหารบัญชีภาษีในธุรกิจรับเหมาก่อสร้างมีความซับซ้อน แต่หากผู้ประกอบการมีความเข้าใจเกี่ยวกับภาษีที่เกี่ยวข้อง จัดการบัญชีอย่างเป็นระบบ วางแผนภาษีอย่างรอบคอบ และยื่นภาษีให้ถูกต้องและตรงเวลา ก็จะช่วยลดภาระภาษีและเพิ่มโอกาสในการเติบโตของธุรกิจได้อย่างมั่นคง

หากคุณไม่มั่นใจในการคำนวณภาษีหรือจัดการบัญชีอย่างถูกต้อง

สำนักงานบัญชีกรุงเทพ (2009) ยินดีที่จะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกหนึ่ง ให้คุณได้ผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้คำปรึกษาและดูแลบัญชี-ภาษีของคุณ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการทำผิดกฎหมาย และช่วยให้คุณวางแผนการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากสนใจ ติดต่อเราได้ครับ