ภาษีซื้อแบบไหนขอคืนไม่ได้

ภาษีซื้อแบบไหนขอคืนไม่ได้

ภาษีซื้อ คือ ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ที่ผู้ประกอบการจ่ายเมื่อซื้อสินค้าหรือบริการ หากเป็นภาษีซื้อที่เกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจและมีเอกสารถูกต้อง ผู้ประกอบการสามารถนำไปใช้หักออกจากภาษีขายที่ต้องจ่ายให้กรมสรรพากรได้

แต่ไม่ใช่ภาษีซื้อทุกประเภทจะสามารถขอคืนหรือใช้เป็นเครดิตภาษีได้ หากนำภาษีซื้อที่ไม่สามารถขอคืนได้มาคำนวณ อาจส่งผลให้ถูกกรมสรรพากรเรียกตรวจสอบ หรืออาจต้องเสียค่าปรับภาษีย้อนหลัง

ภาษีซื้อแบบไหนขอคืนไม่ได้? มาดูกันครับ

ภาษีซื้อแบบไหนขอคืนไม่ได้ / ภาษีซื้อต้องห้าม? คำอธิบายอย่างละเอียดสำหรับผู้ประกอบการ

การขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)  เป็นสิทธิประโยชน์ที่ผู้ประกอบการสามารถใช้ได้ในการดำเนินธุรกิจ โดยการขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มที่จ่ายไปในขณะซื้อสินค้าหรือบริการจากผู้ขายที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม แต่จะมีบางกรณีที่ภาษีซื้อที่จ่ายไปไม่สามารถขอคืนได้เนื่องจากไม่สอดคล้องกับข้อกำหนดที่กฎหมายกำหนดไว้ ซึ่งในบทความนี้จะพาผู้ประกอบการไปทำความเข้าใจว่า ภาษีซื้อแบบไหนที่ไม่สามารถขอคืนได้

เพื่อให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น เรามาเจาะลึกแต่ละกรณีของภาษีซื้อที่ไม่สามารถขอคืนได้ พร้อมคำอธิบายอย่างละเอียด

Table of Content : สารบัญ

1. ภาษีซื้อจากใบกำกับภาษีที่ไม่ถูกต้อง

2. ภาษีซื้อที่เกี่ยวข้องกับค่าใช้จ่ายส่วนตัว

3. ภาษีซื้อจากสินค้าหรือบริการที่ไม่เกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจ

4. ภาษีซื้อจากกิจการที่ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม

5. ภาษีซื้อที่เกินกำหนดระยะเวลาในการขอคืน

6. แนวทางปฏิบัติเพื่อป้องกันการขอคืนภาษีซื้อผิดพลาด

ภาษีซื้อต้องห้ามที่ถือเป็นรายจ่ายต้องห้าม

ภาษีซื้อต้องห้ามที่ถือเป็นรายจ่ายได้

7. สรุป

1. ภาษีซื้อจากใบกำกับภาษีที่ไม่ถูกต้อง

การใช้ใบกำกับภาษีที่ไม่เป็นไปตามข้อกำหนดของกรมสรรพากร จะทำให้ภาษีซื้อในเอกสารนั้นไม่สามารถนำมาขอคืนได้ ตัวอย่างความผิดพลาดที่พบบ่อย ได้แก่

  • ไม่มีข้อมูลสำคัญครบถ้วน เช่น
    • ไม่ระบุชื่อ-ที่อยู่ของผู้ซื้อ/ผู้ขาย
    • ไม่มีเลขประจำตัวผู้เสียภาษีของผู้ขาย
    • ไม่มีวันที่ออกใบกำกับภาษี
    • ไม่มีรายละเอียดสินค้า/บริการ และมูลค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม
  • ออกโดยผู้ขายที่ไม่ได้จดทะเบียน VAT
    • หากซื้อสินค้าหรือบริการจากผู้ขายที่ไม่ได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (Non-VAT) ใบกำกับภาษีที่ได้รับจะไม่มีสถานะทางภาษี ทำให้ภาษีซื้อนั้นขอคืนไม่ได้
  • เป็นใบกำกับภาษีปลอม หรือไม่มีธุรกรรมจริง
    • หากพบว่าใบกำกับภาษีที่ใช้เป็นใบกำกับภาษีปลอม หรือไม่มีการซื้อขายจริง กรมสรรพากรสามารถปฏิเสธการขอคืนภาษีและอาจมีบทลงโทษทางกฎหมาย
  • ใบกำกับภาษีไม่ถูกต้องทางรูปแบบ เช่น
    • ออกเป็นใบเสร็จรับเงินแทนใบกำกับภาษี (เว้นแต่เป็นใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปที่ใช้เป็นใบเสร็จได้)
    • ใบกำกับภาษีที่ออกโดยคอมพิวเตอร์แต่ไม่มีลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ที่ถูกต้อง

ข้อแนะนำ: ตรวจสอบใบกำกับภาษีทุกครั้งก่อนนำมาใช้ โดยเฉพาะเลขประจำตัวผู้เสียภาษีของผู้ขาย สามารถตรวจสอบผ่านเว็บไซต์ของกรมสรรพากรได้

อ่านเพิ่มเติม: จัดการบิลเงินสด เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายทางภาษี อย่างถูกต้อง

อ่านเพิมเติม: ค่ารับรอง ใช้เป็นค่าใช้จ่ายทางภาษีได้หรือไม่?

2. ภาษีซื้อที่เกี่ยวข้องกับค่าใช้จ่ายส่วนตัว

กรมสรรพากรอนุญาตให้หักภาษีซื้อได้เฉพาะกรณีที่เกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจโดยตรง หากค่าใช้จ่ายนั้นเป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัวหรือเพื่อสวัสดิการส่วนตัวของเจ้าของกิจการ จะไม่สามารถนำภาษีซื้อมาขอคืนได้ เช่น

  •  ค่าอาหารและเครื่องดื่มที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจ
  • ค่าที่พัก ค่าท่องเที่ยว หรือค่าบริการเพื่อความบันเทิงส่วนตัว
  • ค่าใช้จ่ายในการซื้อของขวัญให้พนักงานหรือบุคคลภายนอก (ยกเว้นบางกรณีที่เกี่ยวข้องกับการตลาดและมีเอกสารที่ถูกต้อง)
  • ค่าสาธารณูปโภค เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า ค่าอินเทอร์เน็ต ของที่อยู่อาศัยส่วนตัวของเจ้าของกิจการ

ข้อแนะนำ: แยกค่าใช้จ่ายธุรกิจกับค่าใช้จ่ายส่วนตัวอย่างชัดเจน และหากเป็นค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ ให้มีเอกสารประกอบที่ครบถ้วน

3. ภาษีซื้อจากสินค้าหรือบริการที่ไม่เกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจ

ภาษีซื้อที่เกิดจากการซื้อสินค้าหรือบริการที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจ จะไม่สามารถขอคืนได้ เช่น

  • ค่าซื้อรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 10 ที่นั่ง (เว้นแต่ใช้เพื่อการพาณิชย์ เช่น รถแท็กซี่ รถเช่า)
  • ค่าใช้จ่ายเพื่อการกุศลหรือบริจาคให้กับองค์กรต่าง ๆ (แม้ว่าจะได้รับใบกำกับภาษี)
  • ค่าจัดงานสังสรรค์ของพนักงาน ที่ไม่มีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับธุรกิจ

ข้อแนะนำ: ตรวจสอบว่าสินค้าและบริการที่ซื้อมานั้นเกี่ยวข้องกับธุรกิจโดยตรงหรือไม่ ก่อนนำมาหักภาษีซื้อ

4. ภาษีซื้อจากกิจการที่ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม

หากธุรกิจดำเนินกิจการที่ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มตามกฎหมาย เช่น การขายสินค้าหรือบริการที่ได้รับการยกเว้น VAT ภาษีซื้อที่เกี่ยวข้องกับกิจการประเภทนี้จะขอคืนไม่ได้ เช่น

  • การขายหนังสือและเอกสารทางวิชาการ
  • บริการขนส่งสาธารณะ
  • บริการทางการแพทย์และการศึกษา
  • การขายสินค้าทางการเกษตรบางประเภทที่ได้รับการยกเว้น

ข้อแนะนำ: หากธุรกิจของคุณเป็นกิจการที่ได้รับการยกเว้น VAT ควรศึกษาให้ดีว่าภาษีซื้อใดสามารถนำมาใช้ได้หรือไม่

5. ภาษีซื้อที่เกินกำหนดระยะเวลาในการขอคืน

  • ตามกฎหมาย ภาษีซื้อสามารถนำมาใช้ขอคืนหรือเครดิตภาษีได้ภายใน 6 เดือน นับจากวันที่ออกใบกำกับภาษี หากเกินจากระยะเวลานี้ ภาษีซื้อจะขอคืนไม่ได้
  • ภาษีน่ารู้: ถ้าได้รับหลังช่วง 6 เดือน แต่ไม่เกิน 3 ปี นับแต่วันที่ออกใบกำกับภาษี ให้นำไปใช้ในเดือนที่ระบุในใบกำกับภาษีซื้อเท่านั้น ด้วยวิธียื่นเพิ่มเติม ตามม.83/4 ต้องขอคืนเป็นเงินสดเท่านั้น

ข้อแนะนำ: ตรวจสอบและจัดทำเอกสารภาษีให้เรียบร้อยก่อนถึงกำหนดยื่นภาษีแต่ละเดือน เพื่อลดความเสี่ยงในการขอคืนภาษีล่าช้า

6. แนวทางปฏิบัติเพื่อป้องกันการขอคืนภาษีซื้อผิดพลาด

  • ตรวจสอบใบกำกับภาษีให้ถูกต้อง ครบถ้วน ตามกฎหมาย
  • แยกค่าใช้จ่ายส่วนตัวออกจากค่าใช้จ่ายทางธุรกิจอย่างชัดเจน
  • หลีกเลี่ยงการใช้ภาษีซื้อจากกิจการที่ได้รับยกเว้น VAT
  • เก็บรักษาเอกสารใบกำกับภาษีและหลักฐานทางบัญชีให้ครบถ้วน
  • ตรวจสอบระยะเวลาในการขอคืนภาษีให้ทันกำหนด

ภาษีซื้อต้องห้ามที่ถือเป็นรายจ่ายต้องห้าม

1. ภาษีซื้อที่ไม่มีใบกำกับภาษี
2. เป็นภาษีซื้อตามใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปไม่มีข้อความครบถ้วนสมบรูณ์
3. เป็นภาษีซื้อที่ไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการประกอบกิจการ ได้แก่ ภาษีซื้อสำหรับรายจ่ายต้องห้าม
4. ภาษีซื้อตามใบกำกับภาษีที่ออกโดยผู้ไม่มีสิทธิที่จะออกตามกฎหมาย
5. ไม่เคยมีใบกำกับภาษี หรือเคยมีแต่สูญหายโดยไม่มีใบแทนฯ
*** ภาษีซื้อที่เครดิตได้ แต่ไม่นำไปใช้ ก็ถือเป็นรายจ่ายต้องห้ามด้วย ***

ภาษีซื้อต้องห้ามที่ถือเป็นรายจ่ายได้

ภาษีซื้อต้องห้ามที่ถือเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิได้ ได้แก่

  • ภาษีซื้อสำหรับค่ารับรอง
  • ภาษีซื้อสำหรับรถยนต์นั่งหรือรถยนต์โดยสารที่มีที่นั่งไม่เกิน 10 คน รวมทั้งภาษีซื้อสำหรับสินค้าหรือบริการที่เกี่ยวกับรถยนต์ดังกล่าว
  • ภาษีซื้อสำหรับรถยนต์ที่ไม่ใช่รถยนต์นั่งหรือรถยนต์โดยสารที่มีที่นั่งไม่เกิน 10 คน ซึ่งทำการดัดแปลงให้เป็นรถยนต์ที่ไม่ใช่รถยนต์นั่งหรือรถยนต์โดยสารที่มีที่นั่งไม่เกิน 10 คน
  • ภาษีซื้อตามใบกำกับภาษีอย่างย่อ
  • ภาษีซื้อสำหรับทรัพย์สินหรือรายจ่ายที่ใช้ในกิจการประเภทที่ไม่ต้องเสียภาษีVAT
  • ภาษีซื้อจากการเฉลี่ยในส่วนที่เป็นของกิจการที่ไม่ต้องเสีย VAT
  • ภาษีซื้อสำหรับสินค้าหรือบริการที่ต้องใช้ในกิจการทั้งที่ต้องเสีย VAT และไม่ต้องเสีย VAT ซึ่งรายได้ในส่วนที่ต้องเสีย VAT ไม่น้อยกว่า 90% และผู้ประกอบการจดทะเบียนเลือกใช้สิทธิไม่เฉลี่ยภาษีซื้อ
  • ภาษีซื้อสำหรับการก่อสร้างอาคารหรืออสังหาริมทรัพย์ที่ใช้ในกิจการที่ต้องเสีย VAT และต่อมาไม่เกิน 3 ปี นับแต่เดือนที่สร้างเสร็จสมบูรณ์ได้ขายหรือให้เช่าหรือนำไปใช้ในกิจการที่ต้องเสีย VAT
  • ภาษีซื้อตามใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปที่รายการ “ใบกำกับภาษี” ไม่ได้ตีพิมพ์หรือจัดทำด้วยระบบคอมพิวเตอร์ กรณีจัดทำใบกำกับภาษีด้วยระบบคอมพิวเตอร์ทั้งฉบับ
  • ภาษีซื้อตามใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปที่รายการ “ชื่อ ที่อยู่ และเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของผู้ออกใบกำกับภาษี” ไม่ได้ตีพิมพ์หรือจัดทำด้วยระบบคอมพิวเตอร์ กรณีจัดทำใบกำกับภาษีด้วยระบบคอมพิวเตอร์ทั้งฉบับ
  • ภาษีซื้อตามใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปที่ใบกำกับภาษีไม่ใช่เอกสารฉบับแรก และรายการ “เอกสารออกเป็นชุด” ไม่ได้ตีพิมพ์หรือจัดทำด้วยระบบคอมพิวเตอร์ กรณีจัดทำใบกำกับภาษีด้วยระบบคอมพิวเตอร์ทั้งฉบับ
  • ภาษีซื้อตามใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปของสำนักใหญ่ที่สาขานำไปออกโดยไม่มีรายการ “สาขาที่ออกใบกำกับภาษีคือ …”
  • ภาษีซื้อตามใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปสำหรับค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับรถยนต์ที่ออกโดยผู้ประกอบกิจการสถานีบริการน้ำมัน โดยไม่มีรายการ “เลขทะเบียนรถยนต์”
  • ภาษีซื้อตามสำเนาใบกำกับภาษีแบบเต็มรูป เว้นแต่ใบกำกับภาษีที่ไม่ใช่เอกสารฉบับแรกซึ่งมีรายการ “เอกสารออกเป็นชุด”
  • ภาษีซื้อตามใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปที่รายการในใบกำกับภาษีได้ถูกแก้ไข เปลี่ยนแปลง เว้นแต่รายการดังต่อไปนี้
    (1) การแก้ไขที่อยู่ของผู้ออกใบกำกับภาษี เนื่องจากทางราชการได้ประกาศเปลี่ยนแปลง เลขที่ ชื่อถนน หมู่บ้าน ตำบลหรือแขวง อำเภอหรือเขต หรือจังหวัด โดยลงลายมือชื่อกำกับการแก้ไข หรือประทับด้วยตรายางภายใน 1 ปี นับแต่วันที่ทางราชการประกาศเปลี่ยนแปลง
    (2) การแก้ไขเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของผู้ออกใบกำกับภาษี โดยลงลายมือชื่อกำกับการแก้ไข หรือประทับด้วยตรายางภายใน 6 เดือน นับแต่วันที่กรมสรรพากรได้แจ้งการเปลี่ยนแปลงรายการดังกล่าวให้ใหม่

7. สรุป

ภาษีซื้อที่ไม่สามารถขอคืนได้ส่วนใหญ่มักเกี่ยวข้องกับค่าใช้จ่ายที่ไม่เกี่ยวข้องกับกิจการ สินค้าและบริการที่ได้รับการยกเว้นภาษี หรือเอกสารที่ไม่ถูกต้อง การทำความเข้าใจหลักเกณฑ์เหล่านี้จะช่วยให้ธุรกิจสามารถบริหารจัดการภาษีได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยงทางภาษี และป้องกันการถูกเรียกเก็บภาษีย้อนหลังจากกรมสรรพากร

หากคุณไม่มั่นใจในการคำนวณภาษีหรือจัดการบัญชีอย่างถูกต้อง

สำนักงานบัญชีกรุงเทพ (2009) ยินดีที่จะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกหนึ่ง ให้คุณได้ผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้คำปรึกษาและดูแลบัญชี-ภาษีของคุณ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการทำผิดกฎหมาย และช่วยให้คุณวางแผนการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากสนใจ ติดต่อเราได้ครับ